Monday, September 24, 2012

ฟ้าหลังฝน


ชีวิตคนเราทุกคนเกิดมา ล้วนมีทั้งสุข และทุกข์ยากลำบาก แต่คนเราไม่ยอมรับความทุกข์ เสาะแสวงหาแต่ความสุขใส่ตัว เมื่อวันหนึ่งต้องประสบกับความทุกข์ ก็ไม่สามารถปรับตัว หรือแก้ปัญหาชีวิตได้ หลาย ๆ คนแก้ปัญหา ด้วยการฆ่าตัวตาย นั่นไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่เป็นการหนีปัญหา ที่สำคัญเป็นบาปใหญ่หลวง
ทุกปัญหามีทางออก สำคัญที่ต้องมีสติ ตามหลักพุทธศาสนา สติมาปัญญาเกิด

ฉันเชื่อในคำพูดที่ว่า
ฟ้าหลังฝน ท้องฟ้าย่อมสดใส

ฝนตกหนัก ในช่วงฤดูฝน เหมือนกราฟชีวิตคนเราที่เวลามีปัญหามารุมสุมใส่
สำหรับฉัน หนึ่งปีที่ผ่านมา หลังจากตัดสินใจลาออกจากงาน ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง ชีวิตความเป็นอยู่ตลอด หนึ่งปี ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตมากมาย ไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง อยู่กับตัวเองมากขึ้น ความฟุ้งซ่านก็จะตามมา คิดเอง เออเองทุกอย่าง ไม่รู้จะปรึกษาใคร สถานะทางสังคมลดลง ไม่มีความน่าเชื่อถือ ปรึกษาครอบครัวก็ไม่ได้ ไม่อยากให้เขามาทุกข์ร้อนใจกับเรา เพื่อนฝูงบางคนก็รังเกียจ หนี้สินก็ท่วมหัว ร้องไห้ทุกวันน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด ถามว่ามีใครสนใจมั๊ย... ไม่มี 
คิดว่าหลาย ๆ คนที่ตกงานคงมีความรู้สึกแบบนี้ แต่ฉันไม่เคยคิดที่จะทำร้ายตัวเองซักครั้ง
ฉันไม่เคยขออะไรมากมาย แค่คำพูดให้กำลังใจก็พอ


ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ .. ขอให้กำลังใจกับทุกคนที่กำลังประสบปัญหาชีวิต ไม่ว่าจะหนักหรือเบา ขอให้มีสติ และสู้ต่อไป 
การเกิดเป็นคนนั้นยาก แต่การมีชีวิตอยู่จนวันสุดท้ายยากกว่า 
สำหรับฉันใกล้จะถึงวันที่ฟ้าสดใสแล้ว
..สู้ สู้..

No comments:

Post a Comment